🧠 แนวคิดเชิงคำนวณ
Computational Thinking
รายวิชา ว31101 วิทยาการคำนวณ 1 | ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
🎯 จุดประสงค์การเรียนรู้
เข้าใจแนวคิดเชิงคำนวณและองค์ประกอบ
สามารถแยกส่วนและวิเคราะห์ปัญหา
ออกแบบขั้นตอนวิธีแก้ปัญหา
นำไปประยุกต์ในชีวิตจริง
📖 สาระสำคัญ
แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) เป็นพื้นฐานของการคิดแก้ปัญหา ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่การเขียนโปรแกรมเท่านั้น แต่เป็นทักษะการคิดที่ช่วยให้เราสามารถคิดอย่างเป็นระบบ และ แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🎨 ทำไมต้องเรียนแนวคิดเชิงคำนวณ?
- ✅ ช่วยให้คิดอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน
- ✅ สามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้โดยแบ่งเป็นส่วนเล็กๆ
- ✅ เพิ่มความสามารถในการมองเห็นรูปแบบและความสัมพันธ์
- ✅ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และคิดเชิงตรรกะ
- ✅ เตรียมความพร้อมสำหรับยุคดิจิทัลและ AI
🧩 องค์ประกอบ 4 ส่วนของแนวคิดเชิงคำนวณ
แนวคิดเชิงคำนวณประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลักที่ทำงานร่วมกัน
🧩 1. การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา (Decomposition)
ความหมาย: การแบ่งปัญหาใหญ่ที่ซับซ้อนออกเป็นปัญหาย่อยๆ ที่เล็กลง เพื่อให้เข้าใจและแก้ไขได้ง่ายขึ้น
📝 ตัวอย่าง: การทำแซนด์วิช
- เตรียมวัตถุดิบ (ขนมปัง, แฮม, ผัก, เนย)
- ทาเนยที่ขนมปัง
- วางแฮมและผัก
- ประกบขนมปัง
- ตัดขนมปังเป็นชิ้นพอดีคำ
🎓 ตัวอย่างในโรงเรียน: การเตรียมสอบปลายภาค
- แยกตามวิชา (คณิต, ไทย, อังกฤษ, ...)
- แยกตามเนื้อหาในแต่ละวิชา (บท 1-5)
- แยกตามประเภทการเรียน (ทำโจทย์, ท่องจำ, ทำความเข้าใจ)
- จัดตารางเวลาอ่านหนังสือแต่ละวิชา
🔍 2. การหารูปแบบของปัญหา (Pattern Recognition)
ความหมาย: การสังเกตและค้นหาความเหมือนหรือรูปแบบที่ซ้ำกันในข้อมูลหรือปัญหา เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
📝 ตัวอย่าง: การเดินทางไปโรงเรียน
- วันจันทร์-ศุกร์ = ออกบ้าน 6:30 น. เพื่อไปถึงตรงเวลา
- ถ้าฝนตก = ออกบ้านเร็วขึ้น 15 นาที (เพราะรถติด)
- ถ้าวันศุกร์ = ออกบ้านเร็วขึ้น 10 นาที (เพราะมีธงและเคารพธงชาติ)
🔢 ตัวอย่างทางคณิตศาสตร์: การหาพื้นที่
- พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว
- พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน
- พื้นที่สี่เหลี่ยมคางหมู = (ฐานบน + ฐานล่าง) × สูง ÷ 2
🎯 3. การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction)
ความหมาย: การกรองข้อมูลและเลือกเฉพาะส่วนที่สำคัญ โดยละรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้มองเห็นแก่นแท้ของปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
📝 ตัวอย่าง: แผนที่ระบบขนส่งมวลชน (BTS/MRT)
- ชื่อสถานี
- ลำดับสถานี
- จุดเปลี่ยนสาย
- สายรถไฟฟ้า
- ระยะทางที่แท้จริงระหว่างสถานี
- รายละเอียดอาคารรอบๆ
- ทิศทางที่แน่นอน
- ความสูงของพื้นที่
🎮 ตัวอย่าง: การเล่นเกมฟุตบอล
- ตำแหน่งผู้เล่น
- ทักษะของผู้เล่น (ความเร็ว, ยิงประตู)
- คะแนน
- เวลาในเกม
- ใบหน้าที่สมจริงของผู้เล่น
- รายละเอียดผู้ชมในสนาม
- ฟิสิกส์ของลมที่สมจริง 100%
⚙️ 4. การออกแบบขั้นตอนวิธี (Algorithm)
ความหมาย: การเขียนลำดับขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือทำงานให้ชัดเจน โดยมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่ชัดเจน และสามารถทำซ้ำได้
📝 ตัวอย่าง: ขั้นตอนการล็อกอินเข้าระบบ
- ถ้าถูกต้อง → เข้าสู่หน้าหลักของระบบ
- ถ้าผิดพลาด → แสดงข้อความ "ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านไม่ถูกต้อง" และกลับไปขั้นตอนที่ 2
🍳 ตัวอย่าง: สูตรการทำไข่เจียว
- ✓ ชัดเจน - เข้าใจง่าย ไม่กำกวม
- ✓ มีจุดเริ่มและจุดจบ - รู้ว่าเริ่มและจบที่ไหน
- ✓ มีประสิทธิภาพ - ใช้เวลาและทรัพยากรน้อยที่สุด
- ✓ ทำซ้ำได้ - ใช้ได้หลายครั้งได้ผลเหมือนเดิม
📚 ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ทั้ง 4 องค์ประกอบ
🎯 ตัวอย่างที่ 1: การวางแแผนจัดงานวันเกิด
📋 โจทย์
คุณต้องจัดงานวันเกิดให้เพื่อนในห้อง 50 คน ภายใน 2 สัปดาห์ งบประมาณ 5,000 บาท จงวางแผนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ
- กำหนดวันเวลาและสถานที่
- จัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม
- ตกแต่งสถานที่
- เตรียมกิจกรรมและเกมส์
- จัดทำของชำร่วย
- เตรียมเสียงและดนตรี
- จากงานเกิดครั้งก่อนๆ พบว่า: คนชอบพิซซ่าและไก่ทอดมากที่สุด
- กิจกรรมเกมส์จับฉลากของขวัญทำให้ทุกคนสนุกสนาน
- เพลงสากลและเพลงไทยสารทำให้บรรยากาศดี
- โป่งและพวงมาลัยเป็นของตกแต่งที่สวยและประหยัด
ข้อมูลสำคัญที่ต้องคำนึงถึง:
- จำนวนคน = 50 คน
- งบประมาณ = 5,000 บาท (100 บาท/คน)
- เวลา = 2 สัปดาห์
- อาหารต้องเพียงพอและอร่อย
- มีกิจกรรมให้สนุกสนาน
ละทิ้งรายละเอียด:
- ลวดลายของชุดแต่งละเอียดเกินไป
- แบรนด์เฉพาะเจาะจงของอาหาร
- การตกแต่งที่หรูหราเกินงบ
สัปดาห์ที่ 1:
- สำรวจจำนวนคนที่มา (วันที่ 1-2)
- คำนวณงบประมาณและแบ่งเงิน (วันที่ 3)
- สั่งจองอาหาร พิซซ่า 10 ถาด + ไก่ทอด 5 ถาด (วันที่ 4)
- ซื้อของตกแต่ง โป่ง ป้าย พวงมาลัย (วันที่ 5-6)
สัปดาห์ที่ 2:
- เตรียมเพลงและระบบเสียง (วันที่ 8-9)
- เตรียมของขวัญสำหรับเกมส์ (วันที่ 10-11)
- ตกแต่งสถานที่ (วันที่ 13 เช้า)
- จัดงาน! (วันที่ 14 บ่าย)
🎯 ตัวอย่างที่ 2: การเตรียมตัวสอบ TOEIC
📋 โจทย์
คุณมีเวลา 3 เดือนในการเตรียมตัวสอบ TOEIC เพื่อให้ได้คะแนน 700+ โดยปัจจุบันคุณได้คะแนน 450 จงวางแผนการเรียนโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ
- แยกตามทักษะ: Listening, Reading, Vocabulary, Grammar
- แยกตามระดับความยาก: Easy → Medium → Hard
- แยกตามเวลา: เดือนที่ 1, 2, 3
- แยกตามประเภทโจทย์: Part 1-7
- คะแนน Listening มักเพิ่มได้เร็วกว่า Reading
- Vocabulary ที่ออกสอบบ่อยๆ เป็นคำศัพท์ธุรกิจ
- Part 5-6 (Grammar) สามารถท่องจำรูปแบบได้
- Part 7 (Reading) ต้องฝึกอ่านเยอะๆ เพื่อความเร็ว
- การทำข้อสอบเก่าช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบ
โฟกัสหลัก:
- คำศัพท์ธุรกิจ 1,000 คำ
- โครงสร้างไวยากรณ์พื้นฐาน 50 รูปแบบ
- ทักษะ Listening แบบ Business Context
- ความเร็วในการอ่าน Reading Comprehension
- การบริหารเวลาในการสอบ
ไม่จำเป็นต้องเรียน:
- ไวยากรณ์ขั้นสูงที่ไม่ออกสอบ
- คำศัพท์เฉพาะทางที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ
- Accent ของเจ้าของภาษาทุกประเทศ (โฟกัสแค่ American & British)
เดือนที่ 1 (สร้างพื้นฐาน):
- วันที่ 1-15: เรียนไวยากรณ์พื้นฐาน + ท่องศัพท์วันละ 20 คำ
- วันที่ 16-30: ฟัง Podcast ภาษาอังกฤษ 30 นาที/วัน + อ่านบทความ 2 เรื่อง/วัน
เดือนที่ 2 (เพิ่มทักษะ):
- วันที่ 1-15: ทำโจทย์ Part 1-4 (Listening) 50 ข้อ/วัน
- วันที่ 16-30: ทำโจทย์ Part 5-7 (Reading) 50 ข้อ/วัน
เดือนที่ 3 (ทบทวนและฝึกสอบ):
- วันที่ 1-20: ทำข้อสอบจริง (Full Test) 2 ครั้ง/สัปดาห์
- วันที่ 21-30: Review จุดอ่อน + ทำข้อสอบ Part ที่ยังไม่ดี
ทุกวัน: ท่องศัพท์ 20 คำ + ฟังภาษาอังกฤษ 30 นาทีก่อนนอน
📋 ใบงาน: แนวคิดเชิงคำนวณในชีวิตจริง
คำชี้แจง: เลือกโจทย์ 1 ข้อ และวิเคราะห์โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณทั้ง 4 องค์ประกอบ
จัดทำเป็นงานนำเสนอ (PowerPoint, Google Slides หรือ Canva) พร้อมนำเสนอท้ายคาบ
⏰ เวลาในการนำเสนอ: 5-7 นาที
🎬 ข้อ 1: การวางแผนผลิตคลิปวิดีโอ YouTube
สถานการณ์: คุณและกลุ่มเพื่อน 4 คน ต้องการสร้างช่อง YouTube เกี่ยวกับการทำอาหาร โดยมีเป้าหมายอัปโหลดวิดีโอสัปดาห์ละ 2 คลิป งบประมาณเริ่มต้น 10,000 บาท และมีเวลาเตรียมการ 1 เดือนก่อนเริ่มอัปโหลดคลิปแรก
ให้นักเรียนวิเคราะห์:
- Decomposition: แยกย่อยงานทั้งหมดที่ต้องทำ
- Pattern Recognition: ค้นหารูปแบบจากช่อง YouTube ที่ประสบความสำเร็จ
- Abstraction: กำหนดสิ่งสำคัญที่ต้องโฟกัส และสิ่งที่สามารถละไว้ได้
- Algorithm: สร้างขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการอัปโหลดคลิป
- คิดถึงอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กล้อง ไฟ ไมค์
- วางแผนเนื้อหา เช่น สูตรอาหารแต่ละสัปดาห์
- กำหนดบทบาทของสมาชิกแต่ละคน
- วางแผนการตลาดและการโปรโมท
🏫 ข้อ 2: การจัดค่ายวิชาการให้น้อง
สถานการณ์: คุณได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการจัดค่ายวิชาการ "คณิต-วิทย์ สนุกได้" ให้กับนักเรียน ม.1 จำนวน 100 คน ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน งบประมาณ 50,000 บาท และมีเวลาเตรียมการ 2 เดือน
ให้นักเรียนวิเคราะห์:
- Decomposition: แยกย่อยงานต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบ
- Pattern Recognition: หารูปแบบจากค่ายที่ประสบความสำเร็จในอดีต
- Abstraction: กำหนดองค์ประกอบหลักของค่ายที่ดี
- Algorithm: วางแผนขั้นตอนการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มจนจบ
- คิดถึงกิจกรรมที่จะทำในแต่ละวัน
- วางแผนเรื่องที่พัก อาหาร และการเดินทาง
- จัดหาวิทยากรและเจ้าหน้าที่
- เตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอน
- วางแผนความปลอดภัยและการดูแลน้อง
🏃 ข้อ 3: การเตรียมตัวแข่งกีฬาสี
สถานการณ์: คุณเป็นหัวหน้าสีแดงในการแข่งขันกีฬาสีประจำปีของโรงเรียน มีนักกีฬาทั้งหมด 200 คน ต้องแข่งขัน 15 ประเภท (วิ่ง กระโดด ฟุตบอล บาสฯลฯ) งบประมาณ 30,000 บาท และมีเวลาเตรียมตัว 1.5 เดือน
ให้นักเรียนวิเคราะห์:
- Decomposition: แยกงานเตรียมการแต่ละด้าน
- Pattern Recognition: วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของสีจากปีที่แล้ว
- Abstraction: กำหนดปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะ
- Algorithm: วางแผนการซ้อมและการเตรียมตัวทีละขั้นตอน
- วางแผนการซ้อมแต่ละประเภทกีฬา
- คัดเลือกนักกีฬาที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท
- จัดทำตารางซ้อมและดูแลสุขภาพนักกีฬา
- เตรียมเสื้อผ้า อุปกรณ์ และเชียร์ลีดเดอร์
- สร้างขวัญกำลังใจและความสามัคคีในทีม
💼 ข้อ 4: การเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในโรงเรียน
สถานการณ์: โรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเปิดร้านกาแฟในช่วงพักเที่ยง คุณมีเพื่อน 3 คน ที่จะร่วมทำธุรกิจ เงินลงทุนเริ่มต้น 15,000 บาท เป้าหมายคือต้องคืนทุนภายใน 3 เดือน และมีกำไร
ให้นักเรียนวิเคราะห์:
- Decomposition: แยกงานที่ต้องทำทั้งหมด
- Pattern Recognition: ศึกษาร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จ
- Abstraction: กำหนดปัจจัยความสำเร็จของร้านกาแฟ
- Algorithm: วางแผนการเปิดร้านและการดำเนินงานประจำวัน
- คิดเมนู เช่น กาแฟ ชา ขนม
- คำนวณต้นทุนและกำหนดราคาขาย
- หาซัพพลายเออร์และอุปกรณ์
- แบ่งหน้าที่ เช่น ใครทำเครื่องดื่ม ใครเก็บเงิน
- วางแผนการตลาดและโปรโมชั่น
📝 รูปแบบการนำเสนอ
งานนำเสนอควรประกอบด้วย:
- หน้าปก: ชื่อโจทย์ที่เลือก, ชื่อสมาชิกในกลุ่ม (15 วินาที)
- แนะนำปัญหา: อธิบายโจทย์และความท้าทาย (30 วินาที)
- Decomposition: แสดงการแยกย่อยปัญหาอย่างละเอียด (1 นาที)
- Pattern Recognition: แสดงรูปแบบที่ค้นพบ พร้อมยกตัวอย่าง (1 นาที)
- Abstraction: แสดงสิ่งสำคัญที่โฟกัสและสิ่งที่ละออกไป (1 นาที)
- Algorithm: แสดงขั้นตอนวิธีที่ชัดเจน พร้อม Timeline (1.5 นาที)
- สรุปและ Q&A: สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ + รับคำถาม (1 นาที)
- Decomposition (25 คะแนน): แยกย่อยปัญหาได้ครบถ้วนและละเอียด
- Pattern Recognition (20 คะแนน): ค้นหารูปแบบได้ชัดเจนและเหมาะสม
- Abstraction (20 คะแนน): กรองข้อมูลได้ถูกต้องและมีเหตุผล
- Algorithm (25 คะแนน): ขั้นตอนชัดเจน ปฏิบัติได้จริง
- การนำเสนอ (10 คะแนน): ชัดเจน สวยงาม ตรงเวลา
📚 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ว31101 วิทยาการคำนวณ 1
🏫 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4